Everyday Say no to Plastic1

ทำไมไทยถึงต้องรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก

1 มกราคม 2563 กับการเริ่มต้นงดแจกถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อ และซุปเปอร์มาเก็ต ผ่านมา 1 ปีกว่าๆ กับโครงการ Everyday Say No To Plastic Bags ที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ กว่า 90 บริษัท ทั่วประเทศ เพื่อลดขยะต้นทางสู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เรามาดูว่าทำไมไทยถึงต้องลดการใช้ถุงพลาสติกแบบเด็ดขาด

ข้อมูลจากสถาบันพลาสติก พบว่า ในปี 2559 มีปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในประเทศไทย จำนวน 45,000 ล้านใบ/ปี ในจำนวนนี้กระจายไปสู่ผู้ใช้ 3 กลุ่มหลัก คือ

  1. ตลาดสดเทศบาล และเอกชน/แผงลอย/อื่น ๆ จำนวนร้อยละ 40 หรือประมาณ 18,000 ล้านใบ
  2. ร้านขายของชำ จำนวนร้อยละ 30 หรือ ประมาณ 13,500 ล้านใบ
  3. ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ประมาณ 16,330 แห่ง จำนวนร้อยละ 30 หรือ ประมาณ13,500 ล้านใบ

จากสถิติการใช้ถุงพลาสติกที่กล่าวมา ในปีๆหนึ่ง เรามีการใช้ถุงพลาสติกเยอะมาก การกำจัดถุงพลาสติกก็เป็นอีกปัญหาด้วยระยะเวลาในการย่อยสลายยาวนานมาก ถ้าใช้วิธีการฝังกลบก็จะทำให้ดินบริเวณนั้นเสีย ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ ถ้าใช้วิธีการเผา ก็จะทำให้เกิดก๊าซพิษ และยังมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมาในกระบวนการนี้

คาร์บอนไดออกไซด์มีอายุอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานถึง 200 ปี โดยมีแหล่งกำเนิดในธรรมชาติจากการระเบิดของภูเขาไฟและการย่อยสลายของอินทรียวัตถุ ในปัจจุบันนี้ มนุษย์กลายมาเป็นตัวการหลักในการสร้างและปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไม้เชื้อเพลิงฟอซซิลต่างๆ เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ  และเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปลดปล่อยมากที่สุดอันดับหนึ่ง ถึงร้อยละ 75

ผลของก๊าซเรือนกระจก ที่สำคัญและมีการรับรู้กันมานานนม คือ ทำให้โลกร้อน  เนื่องจากกลุ่มก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกมีหน้าที่ กักเก็บและดูดกลืนคลื่นความร้อนหรือรังสีอินฟราเรด (Infrared) ที่ส่งผ่านลงมายังพื้นผิวโลกจากดวงอาทิตย์ หากไม่มีจะทำให้โลกหนาวเย็นจนสิ่งมีชีวิตอยู่ไม่ได้ แต่ถ้ามีมากไปก็จะทำให้โลกร้อนขึ้นอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้

การหักดิบในการงดใช้ถุงพลาสติกของไทยที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการช่วยลดโลกร้อน แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกัน จะทำให้โลกของเราดีขึ้นได้แน่นอน เพราะฉะนั้น มาใช้ถุงผ้ากันเถอะครับ

Comments are closed.